ฤกษ์งามยามดี

สวัสดีคร้าาาาาาาาาา...... มาล้าวววววววววว..... มาล้าวววววววววว..... เมื่อวานตอนบ่ายๆ ก็ได้ฤกษ์งามยามดี ไปต่อใบขับขี่รถจักรยานต์ และรถยนต์ คือใบขับขี่รถจักรยานต์ของบัวหมดอายุสิ้นเดือนนี้พอดี ส่วนของใบขับขี่รถยนต์หมดเดือนพฤษจิกายน ก็คิดว่าไหนๆ ก็ไปแล้วทำมันพร้อมกันทั้งสองอย่างเลย จะได้ไม่เสียเวลาไปหลายเที่ยว ซึ่งเอาจริงๆ บัวเพิ่งจะทำใบขับขี่เป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็หลบตำรวจพ้นบ้าง ไม่พ้นบ้าง ก็จ่ายค่าปรับกันไป แต่ถ้าไปไหนมาไหนบริเวณที่ไปบ่อยๆ อันนี้จะนกรู้ไง ว่าตำรวจนั้นตั้งด่านตั้งแต่กี่โมง ถึงกี่โมง ก็จะเลี่ยงไม่ไปตอนที่ตำรวจตั้งด่าน (ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) เมื่อก่อนโดนจับตำรวจยังแซว ที่ไม่ทำใบขับขี่นี่หนูอายุยังไม่ถึง 18 หรอ เมื่อก่อนบัวคิดว่าการไปสถานที่ราชการมันเสียเวลา ยุ่งยากน่ารำคาญ เห็นเพื่อนไปทำต้องตื่นไปจองคิวแต่เช้ามืด แต่การไปจ่ายค่าปรับเสียทั้งเงินและเวลา แต่พอไปทำจริงๆ มันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร รู้แบบนี้ไปทำตั้งนานแล้ว

เมื่อหลายเดือนก่อนบัวเห็นฟีดข่าวการทำใบอนุญาตขับขี่ หรือต่อใบอนุญาตขับขี่อบรมแบบออนไลน์ ก็เลยสนใจเข้าไปศึกษาดู เพราะใบอนุญาตขับขี่ของบัวใกล้จะหมดอายุแล้ว การต่อไปอนุญาตขับขี่นั้นต้องไปอบรม 1 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปนั่งอบรมแล้ว เพราะสถานการณ์โควิดระบาด เพียงแต่เราเข้าไปที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com จากนั้นก็เลือกหัวข้อ ลงทะเบียน กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เลือกการอบรมตามใบอนุญาตขับที่ต้องการจะต่ออายุ เลือกหัวข้อแบบทดสอบก่อนการอบรม ตอบคำถามแบบทดสอบก่อนการอบรม ซึ่งมีเพียง 3 ข้อเท่านั้น แล้วก็ดูวิดีโอการอบรมการขับรถ ระหว่างที่ดูวิดีโอก็จะมีคำถามเป็นข้อๆ ถามเป็นระยะๆ หลังจากที่ดูวิดีโอการอบรมการขับรถจบ ก็ตอบคำถามแบบทดสอบหลังอบรม จากนั้นก็บันทึกหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการไปต่อใบอนุญาติ ตอนแรกบัวอบรมแค่ต่อใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ดูมาหลายเดือนแล้ว ผลการอบรมออนไลน์มีอายุ 6 เดือน พอใกล้วันจะไปต่อใบอนุญาต ก็เลยดูวิดีโออบรมการขับรถยนต์เพิ่ม เมื่อดูจบแล้ว ก็จองวันทำใบขับขี่ได้เลย แล้วก็แคปหน้าจอไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่

บัวจองทำใบขับขี่ตอนบ่ายโมงตรง ก็มาถึงก่อนเวลาประมาณ 15 นาที ก็มายืนต่อแถวรอเลย พอถึงบ่ายโมงเจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูสำนักงาน ทำการตรวจสอบใบนัด และใบอบรมออนไลน์ เอกสารที่เตรียมไปก็มีใบขับขี่ที่จะหมดอายุ บัตรประชาชน ใบรับรองแพทย์ ใบอบรมออนไลน์ และใบจองออนไลน์

เข้าไปภายในก็จะมีเจลล้างมือแอลกอฮอล์ และที่ตรวจวัดอุณหภูมิ เดินเข้าไปก็จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองเอกสาร จัดเอกสารให้ แต่บัวไม่ได้ถ่ายรูป

ด้านในน้้นคนจะน้อยมาก เพราะเขาจำกัดผู้มาใช้บริการ เนื่องจากปัญหาเชื้อไวรัสโควิดระบาด ห่างๆ อย่างห่วงๆ

เมื่อผ่านจุดคัดกรองเอกสารแล้ว ก็นำมาวางไว้ที่โต๊ะหมายเลข 5 ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ก่อนที่จะมีการทดสอบสมรรภาพทางร่างกาย เจ้าหน้าที่ก็จะสาธิตวิธีการใช้เครื่องให้ดูก่อน หลังจากเจ้าหน้าที่สาธิตจบ ก็จะเรียกชื่อตามมคิว บัวได้คิวประมาณที่ 4 ก็จะทำการเหยียบคันเร่ง ไฟก็จะขึ้นสีเขียว แต่ถ้าไฟขึ้นถึงสีแดงต้องเหยีบเบรคทันที ก็ทำ 2 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะสุ่มกดไฟจราจร ให้เราบอกสีตามที่แสดงบนไฟจราจร ตอบถูกทุกสีถือว่าผ่าน

จากนั้นก็นำเอกสารมาที่ช่องหมายเลข 3 เพื่อทำการชำระเงิน ราคาค่าบริการสำหรับรถจักรยานยนต์ 255 บาท ส่วนรถยนต์ 505 บาท รวมกันแล้วก็ 760 บาท

เมื่อจ่ายค่าบริการแล้วก็นำเอกสารมาที่ช่องหมายเลข 7 ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารว่าถูกต้องไหม แล้วก็ทำการถ่ายรูป แล้วก็นั่งรอใบอนุญาตขับขี่แค่อึดใจเดียว เป็นอันเสร็จสิ้น บัวใช้เวลาทำใบขับขี่ทั้งหมด 20 นาที ได้ใบอนุญาตขับขี่แล้วดีใจไงพอขึ้นรถจะกลับบ้าน ถอยแบบมั่นใจ เพราะรถไม่ได้ชนนานแล้ว เจิมเลยจร้าาาาาา..... ที่เก่า มุมเดิม ถอยไปขูดกับรถกระบะที่จอดอยู่ข้างๆ กัน ทั้งๆ ที่ดูกล้องว่ามันไม่ได้ใกล้แล้วนะ ได้ยินแต่เสีย ลงไปดูดีนะรถกระบะข้างๆ เขามันกันชนไม่เป็นอะไร แต่ของบัวดิมีแผลประมาณเท่าเมล็ดถั่ว นึกโมโหตัวเองที่เลินเล่อ เวลาที่บัวกระหยิ่มยิ้มย่องมักจะประมาท ความประมาทมักนำไปสู่ความหายนะ กลับถึงบ้านรีบเอาน้ำยามาเช็ด มันก็ออกไม่หมด เพราะมีจุดที่ถลอกจนเห็นเนื้อในสีดำ เท่าเม็ดถั่วอย่างที่บอก บัวก็เลยเอาอุ้งตีนหมีมาปิดทับ งวดนี้ต้องมาแล้วแม่